วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เอวร่ารับสุดปวดใจไก่โคม่า

ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส ยอมรับสุดเจ็บปวดกับผลงานของทีม “เลส์ เบลอส์” ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าในฟุตบอลโลกครั้งนี้


ฝรั่งเศส ส่อแววจะต้องตกรอบแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้เมื่อพลาดท่าพ่ายต่อเม็กซิโก ในเกมล่าสุดทำให้โอกาสจะเข้ารอบสองแทบไม่เหลือ ซึ่งทางด้าน เอวร่า ในฐานะกัปตันทีมก็ยอมรับว่าเจ็บปวดกับผลงานของทีมอย่างมาก

“มันคือหายนะ เราพูดได้แค่นี้ เราไม่ใช่ทีมที่ยิ่งใหญ่”

“เมื่อเราตกรอบแรกในฟุตบอลยูโร 2008 ได้ เราก็ยังตกรอบแรกฟุตบอลโลกได้อีก แต่เราไม่อยากจะคิดอะไรไกลกว่านั้น”

“บอกตรงๆว่าผมไม่คิดจะได้เห็นมันมาก่อน สิ่งที่เจ็บปวดก็คือเราไม่รู้วิธีจะตอบโต้ หรือวิธีจะตีเสมอ พวกเขาฝังเราด้วยประตูที่สอง”


ผู้ดีโวยแฟนบอลหลุดเข้าไปด่าเบ๊คส์ถึงห้องแต่งตัว

สหพันธ์ฟุตบอลอังกฤษ ออกอาการไม่พอใจฝ่ารักษาความปลอดภัยของเจ้าภาพแอฟริกาใต้ หลังปล่อยให้มีแฟนบอลบุกมาถึงห้องแต่งตัวหลังจบเกมเจ๊าแอลจีเรีย 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่่ผ่านมา และเข้าไปด่าเดวิด เบ๊คแฮม


แฟนอังกฤษที่เข้าไปเชียร์ทีมรักในสนามกรีน พอยนท์ สเตเดี้ยมกว่า 25,000 คน ส่งเสียงโห่ใส่นักเตะหลังฟอร์มการเล่นย่ำแย่ เสมอแอลจีเรีย 0-0 จนทำให้ส่อแววตกรอบแรก

เท่านั้นยังไม่พอ หลังจบเกมยังมีแฟนรายหนึ่งเล็ดรอดเข้าไปถึงห้องแต่งตัวทัพสิงโตคำราม และเจอเดวิด เบ๊คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติซึ่งมาให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม ทำให้หนุ่มเบ๊คส์รับเคราะห์โดนด่าแหลก ซึ่งในเรื่องนี้อังกฤษจะแจ้งเรื่องไปยังฟีฟ่าให้จัดการต่อไป

ทั้งนี้ เบ๊คแฮมไม่ได้ติดโผลุยเวิลด์คัพเพราะเกิดบาดเจ็บกะทันหันแต่ก็ยังร่วมเดินทางมาที่แอฟริกาใต้กับเพื่อนๆ ด้วย


คาเปลโล่ยอมรับความกดดันทำสิงโตพัง

ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ ออกมายอมรับเสียงอ่อยว่า ความกดดันและความคาดหวังสูงทำให้ทัพทรีไลออนส์เล่นไม่ออก จนได้แค่เสมอแอลจีเรีย 0-0 เมื่อ วันเสาร์ที่ผ่านมา


ชะตากรรมของอังกฤษยังไม่แน่ไม่นอน และอาจจะตกรอบแรกเวิลด์คัพ 2010 ได้ เนื่องจากนัดแรกเสมออเมริกามา 1-1 และนัดสองก็เพิ่งเจ๊าแอลจีเรียไร้สกอร์หมาดๆ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

หลังจบเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คาเปลโล่ให้สัมภาษณ์ว่า "เราเสียบอล และต่อบอลผิดพลาดหลายครั้ง แต่ถึงยังไงก็ยังเหลืออีกเกม ซึ่งเราคงจะได้ยินดีกันมากกว่านี้"

"ผมไม่รู้ว่ามันเกิดจากความกดดัน หรือแค่มันไม่ใช่ช่วงเวลาของเรา แต่ผมคิดว่าอาจเป็นอย่างหลัง เพราะเราเสียบอลมากจนไม่คิดว่านี่คือทีมที่ผมรู้จัก"

"สำหรับเกมสุดท้าย ผมจะเปลี่ยน ผมจะพยายามทำอะไรที่แตกต่าง ผมจะคุยกับนักเตะ นี่เป็นโอกาสสุดท้าย เราต้องเดินหน้า แต่นักเตะก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร"

ส่วนกรณีที่สื่อถามว่าเพราะเหตุใดทีมใหญ่ในรายการนี้จึงทำผลงานย่ำแย่ คาเปลโล่ตอบสั้นๆ ว่า "บางทีอาจจะเป็นความกดดันก็ได้"


โพลดี้ยืดอกรับผิดทำอินทรีเหล็กพ่าย

ลูคัส โพดอลสกี้ กองหน้าทีมชาติเยอรมนี กล่าวว่าตนเองเป็นเหมือน "ไอ้งั่ง" หลังยิงจุดโทษพลาดจนทำให้ "อินทรีเหล็ก" พ่ายให้ เซอร์เบีย 0-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 นัดที่ 2 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา


ทีมของโยอาคิม เลิฟ ต้องเหลือแค่ 10 คนหลังจากที่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ โดนไล่ออกจากการโดนสองใบเหลืองตั้งแต่ครึ่งแรก แต่ เยอรมนี ก็มีโอกาสตีเสมอได้เมื่อได้ลูกจุดโทษ แต่ โพดอลสกี้ ซึ่งทำไปแล้ว 39 ประตูในการเล่นทีมชาติ กลับยิงไปติดเซฟของนายทวารเซิร์บอย่างเหลือเชื่อ

"แน่นอนว่าเราผิดหวัง" หัวหอกทีมโคโลญจน์ กล่าว "ผมคิดว่าลูกยิงจุดโทษของผมไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ผู้รักษาประตูก็ป้องกันได้ดีมาก ถ้าผมทำประตูจากจุดโทษได้ เราก็น่าจะได้ 1 แต้มเพราะฉะนั้นมันเป็นความผิดของผม"

"ผมคิดว่าเราเล่นครึ่งหลังกันได้ดี มีโอกาสมากขึ้นที่จะทำประตู ผมมีโอกาสที่จะทำได้บางทีน่าจะถึงสามประตูด้วยซ้ำ"

"ในเกมกับออสเตรเลียเราทำประตูได้เมื่อมีโอกาสแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละ วันหนึ่งคุณเป็นฮีโร่ และอีกวันคุณก็กลายเป็นไอ้งั่ง"

สิงโตยังฝืดแค่เจ๊าแอลจีเรีย 0-0

"สิงโตคำราม" อังกฤษ ยังโชว์ฟอร์มไม่ออกหลังทำให้แค่เสมอกับ แอลจีเรีย 0-0 ในเกมฟุตบอลโลก นัดที่ 2 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ลงสนาม 2 นัดมีเพียง 2 แต้มและต้องลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้าย


ฟุตบอลโลก รอบแรก นัดที่ 2 กลุ่ม ซี วันที่ 18 มิ.ย. 2010


อังกฤษ 0-0 แอลจีเรีย
ผู้ทำประตู : -
สนาม : เคป ทาวน์ สเตเดี้ยม

ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษ ดร็อป โรเบิร์ต กรีน ที่ทำผิดพลาดในเกมแรกที่เสมอ สหรัฐอเมริกา 1-1 และให้ เดวิด เจมส์ นายทวารจอมเก๋าลงเฝ้าเสาแทน นอกจากนั้น ยังได้ แกเร็ธ แบร์รี่ หายเจ็บกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้งด้วย ส่วนคู่กองหน้ายังเป็น เวย์น รูนี่ย์ และ เอมิล เฮลกี้ เช่นเดิม

ขณะที่ แอลจีเรีย ซึ่งพ่าย สโลวีเนีย มาก่อนในเกมแรก ยังยึด คาริม ซิยานี่ และ คาริม มัตมัวร์

"สิงโตคำราม" มีโอกาสลุ้นเล็กๆ ในนาทีที่ 4 เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู ราอิส เอ็มโบลี่ นายทวารแอลจีเรีย รับเกือบไม่ติดมือแต่สุดท้ายก็ยังไม่พลาด

ผู้เล่นแอลจีเรียเข้าบอลเร็วทำให้อังกฤษเล่นตามเกมของตัวเองลำบาก โดยช่วง 20 นาทีแรกเป็นฝั่งแอลจีเรีย ที่ครองเกมบุกได้ดีกว่า แม้ว่าจะยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูอย่างชัดเจนก็ตาม

นาทีที่ 30 เจอร์ราร์ด ตั้งป้อมยิงไกลจากระยะประมาณ 30 หลา แต่นายทวารแอลจีเรีย ยังเซฟไว้ได้สวย

ถัดมาอีก 3 นาที อังกฤษ เกือบจะได้ประตูขึ้นนำเมื่อ อารอน เลนน่อน โยนให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้ซัดในกรอบเขตโทษแต่ เอ็มโบลี่ ก็ยังพุ่งปัดมือเดียวออกไปได้ทัน

นาทีที่ 35 คาริม ซิยานี่ กองหน้าแอลจีเรีย ก็พาบอลลุยมาถึงหน้าถึงกรอบเขตโทษก่อนจะกดด้วยขวาถากเสาไปนิดเดียว

อีก 4 นาทีต่อมา แบร์รี่ ได้ลองส่องไกลแต่ เอ็มโบลี่ ก็ยังรับเข้าซองได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับลูกยิงไกลของ รูนี่ย์ ในนาทีที่ 43 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยการเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม และเป็น แอลจีเรีย ที่มีลุ้นก่อนจากลูกฟรีคิกแต่ อันตาร์ ยาเอีย ซัดไปติดกำแพง

นาทีที่ 56 เจอร์ราร์ด พาบอลทะลุเข้าไปถึงเขตโทษได้แล้ว แต่กลับพยายามที่จะจ่ายเข้ากลางแทนที่จะยิงเองทำให้ถูกกองหลังแอลจีเรียสกัดออกหลังไปได้อย่างน่าเสียดาย

อีก 3 นาทีต่อมา เจมี่ คาร์ราเกอร์ โดนใบเหลืองจากการทำไปฟาวล์ซึ่งทำให้เกมหน้าจะหมดสิทธิลงสนามเนื่องจากสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ แต่ ยาเอีย ก็ยิงฟรีคิกบริเวณกรอบเขตโทษหลุดเสาไป

นาทีที่ 63 อังกฤษ เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกด้วยการถอด เลนน่อน ออก และส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลิปป์ ลงมาแทน

อีกไม่กี่อึดใจต่อมา จอห์น เทอร์รี่ ก็เกือบทำพลาดเมื่อจ่ายคืนหลังไม่ดี แต่ เจมส์ ยังปราดออกมาตัดบอลนอกเขตได้ทันก่อนที่ มัตมัวร์ จะเข้าถึงบอล

นาทีที่ 72 สิงโตคำราม มีลุ้นประตูติดๆ กัน เริ่มจาก เฮสกี้ ที่ได้เปิดแฉลบบอลเกือบย้อยเข้าประตู และจากลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด ได้โหม่งแต่ไปเข้ามือของ เอ็มโบลี่ อีก

จากนั้น คาเปลโล่ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 2 ด้วยการส่ง เจอร์เมน เดโฟ มาแทน เฮสกี้ แต่เกมรุกก็ยังไม่ดีขึ้นมากนัก ทำให้โค้ชชาวอิตาเลียนต้องทิ้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ มาแทน แกเร็ธ แบร์รี่ ในนาทีที่ 84

ช่วงท้ายเกม อังกฤษ บุกได้มากกว่าแต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของ แอลจีเรีย ได้ ทำให้จบเกมเสมอกันไป 0-0 ส่งผลให้ "สิงโตคำราม" ยังไม่ชนะใครต่อไปและต้องลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายกับ สโลวีเนีย ต่อไป


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : เดวิด เจมส์, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น เทอร์รี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เกล็น จอห์นสัน, อารอน เลนน่อน, แฟรงค์ แลมพาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนี่ย์, เอมิล เฮสกี้


แอลจีเรีย : ราอิส เอ็มโบลี่, มาดจิด บูห์เกร์ร่า, นาดี้ เบลฮัดจ์, อันตาร์ ยาเอีย, ฮัสซัน เย็บด้า, ลาเซ่น, ราฟิค ฮาลิเช่, ไรอัด บูเดบุซ, คาริม ซิยานี่, คาริม มัตมัวร์


ผู้ตัดสิน : ราฟชาน เออร์มาตอฟ (อุซเบกิสถาน)

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เป็นไปตามคาด เมื่ออินเตอร์ มิลาน ทีม 3 แชมป์ฤดูกาลที่ผ่านมา ประกาศแต่งตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นกุนซือคนใหม่ ซึ่งจะเซ็นสัญญา 2 ปี และเปิดตัวเป็นทางการในวันอังคารที่ 15 มิ.ย.นี้




หลังจากที่มีข่าวร่วมกันมานาน ในที่สุดเอล ราฟาก็ตอบรับข้อเสนอเซ็นสัญญาคุมงูใหญ่ 2 ปี โดยเป็นการรับงานต่อจาก โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือโปรตุกีสที่เพิ่งพาอินเตอร์ประสบความสำเร็จสูงสุดคว้า 3 แชมป์ ทั้งสคูเด๊ตโต้, โคปปา อิตาเลีย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา

ด้านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอินเตอร์ระบุว่า "อินเตอร์ยินดีต้อนรับการมาของราฟาเอล เบนิเตซ เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีนี้ เราได้ตกลงกับโค้ชชาวสเปนในการรับภารกิจคุมทีมจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2012"
อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวฉกาจของทีมชาติฮอลแลนด์ มีโอกาสสูงที่จะเรียกฟิตกลับมาลงเล่นในเกมฟุตบอลโลก 2010 นัดแรกของทัพกังหันลมที่จะเจอเดนมาร์ก ในวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.นี้




ร็อบเบนโชคร้ายได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายจากเกมอุ่นเครื่องที่ถล่มฮังการี 6-1 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเจ้าตัวมีโอกาสน้อยที่จะได้ร่วมเล่นในรอบแรกของเวิลด์คัพหนนี้

อย่างไรก็ดี ข่าวล่ามาเร็วจาก ดิ๊ค ฟาน ทูร์น นักกายภาพประจำทีมดัตช์แมนเผยว่ามิดฟิลด์บาเยิร์น มิวนิค มีโอกาสสูงที่จะฟิตทันลงเล่นในเกมวันจันทร์นี้ได้

ฟาน ทูร์น กล่าวว่า "ผมคิดว่าอาร์เยนจะฟิตทันเล่นเกมแรกกับเดนมาร์ก แต่โค้ชอาจจะไม่ส่งเขาลงสนามก็ได้ด้วยเหตุผลทางแท็กติก แต่ถึงตอนนั้นเขาคงหายเจ็บแล้ว"

"เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ (โค้ชฮอลแลนด์) มองเรื่องนี้ต่างไป เขารู้สึกว่าอาร์เยนยังไม่ควรเล่นหลังไม่ได้ซ้อมมานาน แม้จะไม่เจ็บแล้วก็ตาม แต่ตัวผมมองว่าอาร์เยนพร้อมลงสนามทันทีที่ไม่มีอาการบาดเจ็บแล้ว"
อันเดรส อิเนียสต้า มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนจากสังกัดบาร์เซโลน่า ส่อแววพลาดลงสนามในเกมแรกของฟุตบอลโลก 2010 ที่ทัพกระทิงดุจะเผชิญหน้ากับสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้




อิเนียสต้าได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อขาขวา จากเกมอุ่นเครื่องที่ถล่มโปแลนด์ 6-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลว่าเขาจะไม่พร้อมลงเล่นเกมนัดแรกกับสวิตเซอร์แลนด์ พุธหน้า

มาร์กา นสพ.กีฬาในสเปนรายงานว่า แพทย์ได้้ตรวจสอบร่างกายของเขาอย่างละเอียดและเชื่อว่าอิเนียสต้าน่าจะเรียกความฟิตได้ใน 5 วัน แต่ก็ไม่ต้องการให้เสี่ยงเจ็บเพิ่ม จึงน่าจะพักเป็นแค่สำรองสำหรับเกมแรกในทัวร์นาเม้นต์นี้

วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ไกเซอร์" ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ อดีตตำนานทีมชาติเยอรมนี เชื่อว่า "อินทรีเหล็ก" มีโอกาสที่จะทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้
เบ็คเค่นบาวเออร์ ซึ่งเคยคว้าแชมป์โลกกับเยอรมนีตะวันตกมาแล้วทั้งในฐานะนักเตะและโค้ช กล่าวว่าตนรู้สึกผิดหวังที่ มิชาเอล บัลลัค กัปตันทีมได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถร่วมทีมไปเล่นที่แอฟริกาใต้ได้ แต่ก็เป็นโอกาส แต่ก็ยอมรับว่าเป็นโอกาสดีสำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่จะได้แจ้งเกิดบ้าง
"ผมได้เห็นพวกเขาเล่นในเกมอุ่นเครื่องที่พบกับ ฮังการี และบอสเนีย มันน่าประทับใจมาก คุณก็รู้จักคนเยอรมันดี สปิริต และพวกเขาจะสู้กันจนถึงนาทีสุดท้ายเสมอ เยอรมนี ได้รับความเคารพจากคู่แข่งเพราะว่าพวกเขาไม่เคยยอมแพ้"
"บัลลัค เป็นนักเตะที่สำคัญที่สุดในทีมชาติเยอรมนี และฟุตบอลโลกก็เป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกผู้เล่นชื่อดัง และเมื่อพวกเขาไม่อยู่ที่นั่น มันก็จะมีคนคิดถึง แต่ถ้านักเตะคนอื่นๆ สามารถเล่นได้ดีขึ้นอีกราว 5-10 เปอร์เซ็นต์ คุณก็จะสามารถทำให้ทีมบาลานซ์และก็จะสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้" ไกเซอร์ ทิ้งท้าย
เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกทีมชาติสเปน ประกาศว่า "กระทิงดุ" มีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกมาครองได้ หลังจากเพิ่งถล่ม โปแลนด์ 6-0 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
เจ้าของแชมป์ยูโร 2008 ลงเตะอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายที่มูร์เซีย ก่อนที่จะยกพลเดินทางไปยังแอฟริกาใต้ในวันพฤหัสบดีนี้
ตอร์เรส ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่าเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ลุกจากม้านั่งสำรองลงมาแทน ดาวิด บีย่า ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม และสามารถพังประตูที่ 5 ในเกมได้หลังจากที่รับบอลจาก เปโดร มิดฟิลด์บาร์เซโลน่า ที่บรรจงเปิดให้อย่างสวยงาม
"บางทีพรุ่งนี้มันอาจจะมีการมองโลกในแง่ดีเกินไปและการฝันถึงความสำเร็จ แต่เราควรจะรู้ว่านั่นมันอาจจะเป็นผลเสียได้ เราต้องพยายามไม่เหลิงและนำเกมที่พบกับ ซาอุดิอาระเบียและเกาหลีใต้มาเป็นตัวอย่าง แต่เรารู้ว่าถ้าเราเล่นได้อย่างนี้มันก็เป็นเรื่องยากที่จะแพ้ เรามีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหนนี้" กองหน้าลิเวอร์พูลวัย 26 ปี กล่าวหลังจบเกม
พร้อมกันนั้น ตอร์เรส ยังกล่าวอีกว่า "ผมไม่ได้ลงเล่นมานานถึง 2 เดือน ผมอยากจะลงเล่นจริงๆ แต่ว่าหัวเข่าของผมไม่ค่อยดีอย่างที่คิด และผมก็ต้องรอนิดหน่อย มันเป็นเรื่องดีที่ได้กลับมาอีกครั้งและทำประตูได้ เพราะเวลาที่คุณไม่ได้ลงสนามนานๆ คุณจะมีความปรารถนาที่จะเล่นมากกว่าเดิมเยอะ ตอนนี้การรอคอยจบลงแล้วและเราสามารถพูดได้ว่าผมกลับมาอยู่กับเพื่อนร่วมทีมได้อีกครั้ง"
โปรตุเกส ช็อกตาตั้งเมื่อ นานี่ ปีกตัวเก่งจากสังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ จากการซ้อมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ต้องถอนตัวจากการรับใช้ชาติชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 โดยทีมฝอยทอง เรียก รูเบน อโมริม น้องใหม่จากเบนฟิก้า มาเสียบแทน
สมาคมลูกหนังโปรตุกีส หรือ เอฟพีเอฟ ยืนยันว่า นานี่ ต้องถอนตัวจากการลุยเวิลด์คัพหนนี้แล้ว หลังได้รับบาดเจ็บที่หัวในการซ้อมตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา และจากการเช็กอาการล่าสุดระบุว่าเขาจะไม่ฟิตทันร่วมแข่งขันทัวร์นาเม้นต์นี้
นอกจากนี้ โปรตุเกส ยังได้เรียกตัว รูเบน อโมริม จากเบนฟิก้าที่ดวงเฮงได้เข้ามาเสียบแทนเพราะเป็นการติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกของเขา หลังจากเคยเล่นให้ทีมฝอยทองชุดยู-21 มาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ โปรตุเกส อยู่ในกลุ่ม จี ร่วมกับ ไอวอรี่โคสต์, บราซิล และ เกาหลีเหนือ โดยจะประเดิมสนามกับไอวอรี่ โคสต์ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์เรอัล มาดริด เชื่อว่าการที่โปรตุเกส ได้อยู่ใน "กรุ๊ป ออฟ เดธ" ในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย จะช่วยให้ "ฝอยทอง" สามารถสร้างผลงานที่ดีได้
โปรตุเกส ถูกจับสลากมาอยู่ในกลุ่มที่หินที่สุดอย่างกลุ่ม จี ซึ่งประกอบด้วย บราซิล อดีตแชมป์ 5 สมัย, ไอวอรี่โคสต์ และ เกาหลีเหนือ โดยนัดแรกทีมของคาร์ลอส เคยรอช จะพบกับ ไอวอรี่โคสต์ ในวันอังคารที่จะถึงนี้
"ผมคิดว่าโปรตุเกสทำได้ดี มันเป็นความจริงที่ว่าเราต้องเล่นในกลุ่มที่หนักมากแต่นั่นก็จะช่วยให้เราพัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิม" โรนัลโด้ ให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ เดอะ ซัน
"โปรตุเกสอยู่ในช่วงเวลาที่ดีมาก มันเป็นความจริงที่ว่าทีมเปลี่ยนไปมาก เราใช้เวลาด้วยกันเยอะก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้นและนั่นก็จะช่วยให้เราเล่นในฟุตบอลโลกปีนี้ได้ดีขึ้นด้วย"
"เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มถือเป็นอะไรที่สำคัญมาก"
พร้อมกันนั้น อดีตเจ้าของรางวัลบัลลง ดอร์ และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า ยังกล่าวถึงตัวเต็งในการคว้าแชมป์ที่แอฟริกาใต้ด้วยว่า "ตามทฤษฎีแล้ว คุณสามารถพูดได้ว่าสเปน, อังกฤษ, อิตาลี, เยอรมนี, บราซิล และ โปรตุเกส เป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดเสมอ"
"มันจะต้องเป็นฟุตบอลโลกที่พิเศษมาก เพราะนักเตะทุกคนต่างมีความมุ่งมั่นที่จะเล่นในทัวร์นาเมนต์แบบนี้เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของพวกเขา"
ชาบี เอร์นานเดซ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติสเปน เชื่อว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลิเวอร์พูล และ แฟรงค์ แลมพาร์ด กองกลางเชลซี จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติอังกฤษไปได้ไกลในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย
มิดฟิลด์บาร์เซโลน่า กล่าวว่า "สำหรับผมแล้ว แลมพาร์ด และ เจอร์ราร์ด เป็นผู้เล่นหมายเลข 1 ผมชอบรูปแบบที่พวกเขาเล่นเพราะว่าพวกเขาอ่านบอลได้ดีมาก และยังทำประตูได้ด้วย พวกเขาพร้อมที่จะยิงได้เสมอ"
"ผมชอบพวกเขาเพราะว่าพวกเขาเล่นในตำแหน่งเดียวกับผม ผมจะสังเกตพวกเขาได้ง่ายกว่าและทั้งคู่ก็เป็นนักเตะที่วิเศษมากด้วย"
"สำหรับผมแล้ว อังกฤษ ก็เหมือนกันสเปนนั่นแหละ พวกเขาสามารถเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนัก ผมคิดว่าจริงๆ แล้วตัวเต็งน่าจะเป็นทีมที่เคยคว้าแชมป์มาแล้วมากกว่า"